ในตอนที่สามนี้จะขอพูดถึง อาเนียน ซึ่งคนนี้เองเป็นลูกคนที่สี่ของปู่เรืองซึ่งตามที่ปู่เรืองบอกก็ชัดเจนแล้วว่า ให้อาเนียน ดูแลโรงเรียนเตรียมอนุบาล ซึ่งเป็นเพียงโรงเรียนเล็กๆ ที่บอกเลยว่าครอบครัวของอาเนียนแทบไม่ได้มีส่วนในสมบัติ หรือมีอำนาจอื่นใดในมรดกของปู่เรืองเลย แถมพินัยกรรม ก็เขียนอะไรแบบกำกวมๆ อีก ด้วยแบบนี้เอง อาเนียนจึงไม่ชอบ และมีอคติกับป้าใหญ่มากเป็นพิเศษ และที่มากไปกว่านั้นคือ ป้าใหญ่เองก็เป็นคนแย่ง ทะนง คนที่เป็นคู่หมายของอาเนียนไปอีก งานนี้บอกเลยว่าพี่น้องจึงไม่ค่อยลงรอยกันนัก อาเนียนก็ตัวเสเพล เที่ยว กินเหล้าจนพลาดท่าเสียที ท้องกับ ธนพล แล้วคลอดลูกออกมาชื่อว่า น้ำตาล ส่วน ธนพล ก็โดนต้องโทษเพราะไปขับรถชนคนเสียชีวิต บอกเลยว่า น้ำตาล น่าสงสารมาก เพราะ อาเนียน ผู้เป็นแม่แท้ๆ เกลียดเธอเข้ากระดูกดำ ดูหนังแล้วก็สงสารเด็กสุดเพราะไม่รู้เรื่องอะไรเลยทางคุณย่า ก็เลยให้ลูกๆ ทั้งสี่อ่านพินัยกรรมและก็ทำตามที่เขาแจ้งไว้ หากใครหัวแข็ง ไม่ทำตาม ก็ให้ออกจากตระกูลไป คนดูหนังอย่างเราฟังแล้วยังตกใจเลย แล้วพวกลูกๆ จะเหลือรึทุกคน และคนยิ่งเรื่องที่ พริม กับโจ้ ต้องมาแต่งงานกันอีกนี่ยิ่งแล้วเลย ทางคุณย่าเพ่งเล็กอย่างมากเลยเพราะว่า ท่านกลัวว่าถ้า พริม ไปแต่งงานกับคนอื่น สมบัติทุกอย่างก็จะเป็นของสามีของ พริม ไปด้วย งานนี้คุณย่าเลยให้ พริม ตกแต่งกับโจ้ ให้เรียบร้อย แล้วให้โจ้มาเปลี่ยนนามสกุลมาเป็น ปาณบดี แต่สาว พริม ของเราผู้มีความเป็นตัวเองสูง และฉลาดมาก พริม ปบอกคุณย่าไปว่า เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเขาสามารถดูแล และยืนได้ด้วยตัวเองกันหมดแล้ว ถ้าหาก พริม คิดอย่างแต่งงานกับคนอื่นนอกตระกูล พริม จะเป็นคนดูแล กิจการของครอบครัวเอง พริม จึงฉุดคิดไปว่าพินัยกรรมของคุณปู่อันนี้น่าจะเป็นของปลอมขึ้นมารึป่าว เพราะคุณปู่ไม่น่าจะเขียนกฎเกณฑ์บ้าบออะไรแบบนี้ เอาล่ะเรื่องนี้เริ่มมีอะไรน่าสืบซะแล้ว คนดูหนังอย่างพากเราก็ชอบเลยสิแบบนี้อ่ะ
หลายวันต่อมา อารัณย์ ก็ได้เข้ามาอยู่บ้านเดียวกับ พริม ก็ได้พูดคุยปรึกษากับหลายเรื่องเลย โดยเฉพาะเรื่องพินัยกรรม เพราะ พริม ยังคาใจกับเรื่องนี้อยู่มาก ทั้ง อารัณย์และพริม ก็เริ่มหาสืบความจริงของเรื่องกัน อีกอย่างที่คนดูหนังควรรู้คือ ทั้งอารัณย์และ พริม อยากใช้ชีวิตของตัวเองสักที เพราะสองคนนี้เขาแต่งงานกันแบบหลอกๆ เพื่อตบตาคนในตระกูล เพราะ พริม ไม่อยากแต่งงานกับโจ้ ซึ่งการเจอกันของทั้งสองนี้ พริมได้พบอารัณย์ ที่ต่างประเทศในงานประกวดวาดภาพ ทั้งสองได้คุยกันจนถูกคอ และได้ระบายเรื่องเครียดๆ กัน จนสนิทกัน โดย อารัณย์ เป็นเด็กที่โตมาแบบต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง เพราะพ่อแม่ตายไปหมดแล้ว ส่วน พริม เองก็ไปเล่าให้ อารัณย์ ฟังว่าตัวเองต้องแต่งงานกับ โจ้ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพียงเพราะคุณปู่ คุณย่าไม่ต้องการให้กิจการตกเป็นของใคร เมื่อทั้งสองไว้เนื้อเชื่อใจกันเขาจึงช่วยเหลือกันโดยการแกล้วจดทะเบียนกันปลอมๆ แต่ที่พีคไปกว่านั้น คือ อารัณย์ หลงรัก พริม เข้าแล้วจริงๆ แต่เก็บอาการไว้ บอกเลยว่าแต่ละฉากคนดูหนังจิกหมอนเลย เพราะ อารัณย์ ไม่เคยล่วงเกิน พริม เลย เพราะชีวิตนี้มีแต่จะให้ พริม เอาล่ะทุกคนอย่างไร ขอจบการเล่าเพียงเท่านี้ก่อนนะฝากทุกคนไปตามดูหนังในตอนต่อไปกันด้วยนะ รับรอง สนุกแน่นอน